วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กลอนสุนทรภู่สอนหญิง

กลอนสุนทรภู่สอนหญิง
อ่านกันเลยกลอนเพราะจากสุนทรภู่ เรื่องการสอนหญิง สาวๆสมัยนี้อ่านกันบ้างนะ
 .....(อย่า ชิงสุกก่อนห่าม)

จงรักนวลสงวนนาม ห้ามใจไว้
อย่าหลงใหลจำ คำที่พร่ำสอน
คิดถึงหน้าบิดาและมารดร
อย่ารีบร้อนเร็วนักมักไม่ดี
เมื่อสุกงอม หอมหวานจึงควรหล่น
อยู่กับต้น อย่าให้พรากไปจากที่
อย่าชิงสุกก่อนห่ามไม่งามดี
เมื่อบุญมีคงจะมาอย่าปรารมภ์
อย่าคิดเลย คู่เชยคงหาได้
อุตส่าห์ทำ ลำไพ่เก็บประสม
อย่าเกียจคร้านงานสตรีจงนิยม จะอุดม สินทรัพย์ไม่อับจน...


.....(ความ กตัญญูกตเวที)


มีสลึงพึงประจบ ให้ครบบาท
 อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
จงมักน้อยกิน น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน
ไม่ควรซื้อก็ อย่าไปพิไรซื้อ ให้เป็นมื้อเป็นคราวทั้งคาวหวาน
เมื่อพ่อแม่ แก่เฒ่าชรากาล
จงเลี้ยงท่านอย่าให้อดระทดใจ
ด้วยชนกชนนี นั้นมีคุณ
ได้การุณเลี้ยงรักษามาจนใหญ่
อุ้มอุทรป้อน ข้าวเป็นเท่าไร หมายจะได้พึ่งพาธิดาดวง
ถ้าเราดีมี จิตคิดอุปถัมภ์ กุศลล้ำเลิศเท่าภูเขาหลวง
จะปรากฏยศ ยิ่งสิ่งทั้งปวง กว่าจะล่วงลุถึงซึ่งพิมาน
เทพไทในห้อง สิบหกชั้น จะชวนกันสรรเสริญเจริญสาร
ว่าสตรีนี้ เป็นยอดยุพาพาล ได้เลี้ยงท่านชนกชนนี....


.....(การพูดจา)


จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น
อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู
ไม่ควรพูด อื้ออึงขึ้นมึงกู
คนจะหลู่ล่วงลามไม่ขามใจ
แม้จะเรียน วิชาทางค้าขาย
อย่าปากร้าย พูดจาอัชฌาสัย
จึงซื้อง่ายขายดีมีกำไร
ด้วยเขาไม่เคืองจิตระอิดระอา
เป็นมนุษย์ สุดนิยมเพียงลมปาก
จะได้ยากโหย หิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา
จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
ถึงชายใดเขา พอใจมาพูดเกี้ยว
อย่าโกรธ เกรี้ยวโกรธาว่าหยาบหยาม
เมื่อไม่ชอบก็ อย่าตอบเนื้อความตาม
มันจะลามเล่นเลยเหมือนเคยเป็น....

 

.....(กิริยามารยาท)

เมื่อจะจรนอนเดินดำเนินนั่ง
จงระวังในจิตขนิษฐา
อย่าเหม่อ เมินเดินให้ดีมีอัชฌา
แม้นพลั้งพลาดบาทาจะอายคน
เห็นผู้ใหญ่ หรือใครเขานั่งแน่น
อย่าไกวแขนปัดเช่นไม่เห็นหน
ค่อยวอนว่า ข้าขอจรดล
นั่นแหละคน จึงจะมีปรานีนาง.....


.....(การ ครองตน)


อย่าจับปลาสองหัตถ์จะพลัดพลาด จับให้คงลง ให้ขาดว่าเป็นผัว
จึงนับว่าคนดีไม่มีมัว ถ้าชายชั่ว ร้างไปมิใช่ชาย
เป็นผู้หญิงสิ่งใดจะล้ำเลิศ
สุดประเสริฐ ก็แต่ใจไม่เสื่อมสลาย
ถึงรูปทรง นงคราญจะพาลคลาย
ก็จะกลายส่ง สวยด้วยใจงาม


บทสรุปปิดท้ายของสุนทรภู่



สุภาษิตซึ่งประดิษฐ์มาไว้นี้
ล้วนแต่มีเยี่ยงอย่างดังเสกสรร
ใช่จะแกล้ง แต่งคำมารำพัน
คนทุกวัน อย่างนี้มีอาเกียรณ์*  (*อาเกียรณ์= เกลื่อนกลาด)
จะร่ำไปสัก เท่าไรก็ไม่หมด
ขี้เกียจจด เหน็ดเหนื่อยเมื่อยมือเขียน
อุตส่าห์ตรองตริตรึกนึกจำเนียร
ตั้งความเพียรผูกข้อต่อเรื่องราว
พอเป็นเรื่อง สำหรับดับทุกข์โทษ
เป็นประโยชน์ แก่สตรีที่สวยสาว
เป็นตำรับแบบฉบับไปยืดยาว
ในเรื่องราวสุภาษิตลิขิตความ
ข้อไหนชั่ว แล้วอย่ามัวไปขืนทำ
จงจดจำบุญ บาปอย่าหยาบหยาม
เก็บประกอบเอาแต่ชอบในเรื่องความ
ประพฤติตามห้ามใจเสียให้ดี
อย่าฟังเปล่า เอาแต่กลอนสุนทรเพราะ
จงพิเคราะห์คำเลิศประเสริฐศรี
ไว้เป็นแบบ สอนตนพ้นราคี
กันบัดสีคำ ค่อนคนนินทา
ให้สุขีศรีเมืองเลื่องลือฟุ้ง
หอมจรุงกลิ่นกลั้วทั่วทิศา
เป็นที่ชื่น เช่นอย่างนางสีดา
ในใต้หล้า หมายประคองตัวน้องเอย .....


2 ความคิดเห็น: